เมนู

รู้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยน้ำ บทว่า อุทโกโรหกา แปลว่า อาบน้ำเช้าเย็น
บทว่า อุยฺยาเปนฺติ แปลว่า ให้เป็นขึ้น. บทว่า สัญฺญาเปนฺติ แปลว่า
ให้รู้ชอบ. บทว่า สคฺคํ นาม โอกฺกาเปนฺติ ความว่า ยืนห้อมล้อมชวนให้
เข้าไปยังสวรรค์ว่า ไปพรหมโลกเถิด ท่านผู้เจริญ. บทว่า อนุปริสกฺเกยฺย
แปลว่า เดินเวียนรอบ. บทว่า อุมฺมุชฺช แปลว่า จงผุดขึ้นเถิด บทว่า
ถลมุปฺลว แปลว่า จงขึ้นบกเถิด. บทว่า ตตฺร ยสฺส ความว่า ก้อนกรวด
หรือกระเบื้องใดพึงมีในหม้อนั้น. บทว่า สกฺขรา วา กฐลา วา แปลว่า
ก้อนกรวดหรือกระเบื้อง. บทว่า สา อโธคามี อสฺส ความว่า ก้อนกรวด
หรือกระเบื้องนั้น พึงจมลง คือพึงไปข้างล่าง. บทว่า อโธ คจฺฉ แปลว่า
จงไปข้างล่าง.
จบ อรรถกถาภูมกสูตรที่ 6

7. เทศนาสูตร



ว่าด้วยการแสดงธรรมเปรียบด้วยนา 3 ชนิด



[603] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ปาวาริก-
อัมพวัน ใกล้เมืองนาฬันทา ครั้งนั้นนายบ้านนามว่าอสิพันธกบุตร เข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเกื้อกูลอนุเคราะห์สัตว์ทั่วหน้าอยู่
มิใช่หรือ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า อย่างนั้นนายคามณี ตถาคต
เกื้อกูลอนุเคราะห์สัตว์ทั่วหน้าอยู่.

คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็เมื่อเช่นนั้น เพราะเหตุไรพระผู้มี-
พระภาคเจ้าจึงทรงแสดงธรรมโดยเคารพแก่คนบางพวก ไม่ทรงแสดงธรรม
โดยเคารพเหมือนอย่างนั้นแก่คนบางพวก.
. ดูก่อนนายคามณี ถ้าอย่างนั้นเราจักทวนถามท่านถึงในข้อนี้
ปัญหาควรแก่ท่านด้วยประการใด ท่านพึงพยากรณ์ปัญหานั้นด้วยประการ
นั้น ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน นาของคฤหบดี
ชาวนาในโลกนี้มีอยู่ 3 ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเป็นนาดี ชนิดหนึ่งเป็นนา
ปานกลาง ชนิดหนึ่งเป็นนาเลวมีดินแข็ง เค็ม พื้นดินเลว ท่านจะสำคัญ
ความข้อนั้นเห็นไฉน คฤหบดีชาวนาต้องการจะหว่านพืช จะพึงหว่านในนา
ไหนก่อนเล่า.
คา. คฤหบดีชาวนาต้องการจะหว่านพืช พึงหว่านพืชในนาดีก่อน
ครั้นหว่านในนานั้นแล้ว พึงหว่านในนาปานกลาง ครั้นหว่านในนาปาน
กลางนั้นแล้ว ในนาเลวมีดินแข็ง เค็ม พื้นดินเลว พึงหว่านบ้างไม่หว่าน
บ้าง ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะที่สุดจักเป็นอาหารโค.
[604] . ดูก่อนนายคามณี เปรียบเหมือนนาดีฉันใด เรา
ย่อมแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศ
พรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง แก่
ภิกษุและภิกษุณีของเราเหล่านั้น (ก่อน) ฉันนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะภิกษุและภิกษุณีเหล่านี้ มีเราเป็นที่พึ่ง มีเราเป็นที่เร้น มีเราเป็นที่
ต้านทาน มีเราเป็นสรณะอยู่ ดูก่อนนายคามณี นาเลว มีดินแข็ง เค็ม

พื้นดินเลวฉันใด เราย่อมแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง
งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์
บริบูรณ์สิ้นเชิง แก่อัญเดียรถีย์ สมณะ พราหมณ์และปริพาชกของเรา.
เหล่านั้น (ในที่สุด) ฉันนั้น.

ว่าด้วยการแสดงธรรมเปรียบด้วยขวดน้ำ 3 ใบ



[605] ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะอัญเดียรถีย์ สมณะพราหมณ์
และปริพาชกจะพึงรู้ธรรมแม้บทเดียว ความรู้ของเขานั้นพึงเป็นไปเพื่อ
ประโยชน์สุขแก่เขาสิ้นกาลนาน ดูก่อนนายคามณี บุรุษมีขวดน้ำ ใบ
คือ ขวดน้ำใบหนึ่งไม่มีช่อง ใส่น้ำไม่ได้ เจ้าของไม่ใช้ ใบหนึ่งไม่มีช่อง
ใส่น้ำได้ เจ้าของใช้ ใบหนึ่งมีช่อง ใส่น้ำได้ เจ้าของใช้ ดูก่อน
นายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษคนโน้นต้องการจะ
กรอกน้ำใส่ พึงกรอกน้ำใส่ในขวดไม่มีช่องใส่น้ำไม่ได้ เจ้าของไม่ใช้
หรือขวดน้ำไม่มีช่อง ใส่น้ำได้ เจ้าของใช้ หรือว่าขวดน้ำที่มีช่อง ใส่น้ำได้
เจ้าของใช้ก่อน.
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุรุษคนโน้นต้องการจะกรอกน้ำใส่
พึงกรอกน้ำใส่ในขวดน้ำไม่มีช่อง ใส่น้ำไม่ได้ เจ้าของไม่ใช้ แล้วพึงกรอก
น้ำใส่ในขวดน้ำไม่มีช่อง ใส่น้ำได้ เจ้าของใช้ แล้วพึงกรอกน้ำใส่ในขวด
น้ำมีช่อง ใส่น้ำได้ เจ้าของใช้บ้าง ไม่กรอกใส่บ้าง ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะที่สุดจักเป็นน้ำสำหรับล้างสิ่งของ.